Make Friend Online ทำยังไงให้สานสัมพันธ์ต่อได้

ผมว่าคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ น่าจะเคยประสบภัยหรือไม่ก็ทำตัวเป็นภัยมาก่อนแน่นอน ในยุคสมัยนี้ การหาเพื่อน หาคู่ ออนไลน์ถือเป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร เพราะ ด้วยสภาพสังคมที่เร่งรีบ งานก็เยอะ วันๆ อยู่ในที่ทำงาน บ้าน ท้องถนน เวลาเราน้อยลงเรื่อยๆ มนุษย์ที่หวังจะเดินถนนแล้วชนกับคนในฝันมันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก หรือบางคนก็อยากหาสมาคมใหม่ หาใครคุยเป็นเพื่อน ดังนั้น Date App หรือ Match App ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Facebook Dating, Tinder, Grindr, … และอื่นๆอีกมากมายตามรสนิยมของผู้ใช้งาน

  1. ความชัดเจนใน Profile ส่งผลอย่างมากในการเปิดการสนทนา (หากคุณไม่แสดงรูปใบหน้ากรุณาให้คู่สนทนาก่อนไปขอรูปของเขา)
    คนอยากสนทนากับใครก็ตามที่มีรูปร่างหรืออะไรบางอย่างตรงสเป็กอยู่แล้ว แต่ในบางแอ็ปเช่นแอ็ปเฉพาะทาง บางคนอาจมีความกังวลในการเผยใบหน้าจริงในแอ็ปนั้น เพราะกลัวคนนอกแอ็ปหรือคนรู้จักมาเห็นแล้วจะเป็นเรื่อง ซึ่งมันเข้าใจได้ครับ ทางแก้ที่ดีที่สุดคือบอกเขาไปเลยว่า เรามีรูปหน้านะแต่ขอส่งให้ตอนคุย ให้ตัดสินใจเอง และที่สำคัญก่อนสนทนา ต้องชัดเจนครับว่าเรามีความต้องการมีความสัมพันธ์ แบบไหนกับเขา แล้วให้รูปเราไปก่อนเสมอที่เราจะขอ
    ในทางกลับกันผู้คนที่น่ารำคาญที่สุดในการเปิดการสนทนาคือ ภาพตัวเองก็ไม่มี แต่ขอโน่นขอนี่และถามในคำถามเชิงการชวนร่วมเพศ ก่อน อันนี้มักได้รับความรู้สึกไม่ดีตอบกลับนะครับ แม้ว่าคนเรามีความต้องการทางเพศอยู่และบางทีคู่สนทนาเราก็หาเรื่องอย่างว่านั่นแหละ แต่มนุษย์ทุกคนจะมีสัญชาติญาณระวังภัยเสมอ การแสดงทีท่าว่าจะไปขอมีอะไรโดยไม่เปิดเผยตัวตนก่อน ถือเป็นภัยคุกคามที่ค่อนข้างร้ายแรง และคุณจะได้รับการปฏิเสธอย่างแน่นอน หรือถ้าเขาไม่ปฏิเสธเขาจะส่งสัญญาณบางอย่างมาบอก เช่น ส่งของคุณมาก่อนซิ เป็นต้น (แนะนำว่าอย่าให้ไปถึงขั้นตอนนี้โอกาสสานสัมพันธ์จะน้อยมาก)
  2. บทสนทนาซ้ำซาก ทำให้เขารำคาญ
    เคยไหมครับ คุยกันแบบคำต่อคำและคำก็จะวนๆแบบนี้ทุกวัน
    ตัวอย่าง 1
    …… เมื่อวาน …..
    A: สวัสดี
    B: หวัดดี
    A: ทำอะไร
    B: ทำงาน
    A: กินข้าวยัง
    B: กินแล้ว
    ….​ วันนี้ 9.00 น…..
    A : ทำไร
    B: ทำงานครับ แล้วคุณทำไร
    A: เหมือนกัน
    *และมันก็จะเป็นลูปแบบนี้วนไป ทุกๆวันที่สนทนา

    ตัวอย่างที่ 2
    A: สวัสดี
    B: สวัสดี ผม…..​แนะนำตัว
    ……. 3 วันถัดมา …….. (ไม่มีอะไรหลังจากนั้น)

    ตัวอย่างข้างต้นเรียกการสนทนาแบบ ไม่รู้จะไปจบตรงไหน ไม่มีวิวัฒนาการใดๆ อย่าได้หาทำครับ ตัวอย่างที่ 2 นี่ไม่เท่าไหร่เพราะเราก็ตีความได้ว่าน่าจะไม่ได้อยากคุย แต่ตัวอย่างแรกนี่น่ารำคาญมากนะครับ จะสานสัมพันธ์ไปทางไหน วันที่ 2 ควรพูดไปได้แล้ว คิดอะไรไม่ออก ถามชอบดูหนังไหม ดูซีรีส์หรือฟังเพลงอะไรอยู่ก็ได้ครับ จะได้เปิดหัวข้อใหม่ๆ ในการสนทนา
  3. จะให้ดีกว่าคือเล่าเรื่องของเราแลัวถามเรื่องของเขา
    วิธีนี้จะทำให้เขาไม่รู้สึกว่าถูกสัมภาษณ์ และเป็นการแนะนำตัวตนของเราให้เขารู้จักมากขึ้น และความสัมพันธ์จะดีมากขึ้นเรื่อยๆหากเขาเองก็พร้อมจะบอกเราว่าเขาชอบอะไร ตัวอย่างเช่น
    A: เราชอบเล่นเกมมากเลย ชอบเล่นเกมไหม?
    B: เราไม่ค่อยถนัดนะแต่ถ้าเป็นเรื่องร้องเพลงนะชอบมากๆ
    *เอาไปประยุกต์กับเรื่องอื่นๆได้นะครับ ยิ่งรู้จักกันมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
  4. หาเรื่อนนัดเจอในสถานที่ปลอดภัยของทั้งคู่
    โรงหนัง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือจะชวนไปทำกิจกรรมค่ายอาสา วิ่งมาราธอนอะไรก็ได้ที่มีคนเยอะพอควร ถ้าจะนัดในที่ส่วนตัวต้องแน่ใจเสียก่อนว่าเขาเปิดรับเรามากพอนะครับ และที่สำคัญตรวจสอบประวัติและตัวตนของเขาดีๆเสียก่อนที่จะนัดเจอนะ เพราะมิจฉาชีพเยอะอยู่ หากเขามี instagram หรือ facebook หรือ twitter ใดๆ ก็จงไปตามเขาซะ และถ้าเป็นไปได้รู้ชื่อนามสกุลจริง สถานที่ทำงานก็ดี ถ้าไม่ชัวร์เลย นัดแรกควรเป็นร้านอาหารที่คนพลุกพล่านมาก ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
  5. อย่านัดแบบมีไม้กันหมาหรือพาคนอื่นมาด้วยโดยไม่บอกเขา
    เรื่องนี้อาจทำให้ความสัมพันธ์แทนที่จะสานต่อ แต่อาจจะขาดสะบั้นทันทีเมื่อแรกพบเลยก็ว่าได้ เพราะมันเหมือนคุณเอาโล่ไปกั้นระหว่างคุณกับเขา สภาพการที่เรียกว่ากระอักกระอ่วน มันยิ่งทำให้การจะได้รู้จักกันยากขึ้นไปอีก ลองคิดถึงตัวคุณถ้านัดใครไว้สักคน แม้เป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว แต่อยู่ๆ มีใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จักโผล่มาอยู่ตรงนั้น โดยไม่ทันตั้งตัว บรรยากาศวันนั้นน่าจะแปลกพิลึกเชียว

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *